ก่อนที่จะเริ่มต้นการเดินทางของคุณบนตลาดการเงินอย่างตลาด Forex นั้น  คุณจะต้องเลือกเครื่องมือสำคัญที่ใช้ในการเข้าถึงตลาด Forex อย่างแพลตฟอร์มการเทรดเสียก่อน  ซึ่งแพลตฟอร์มการเทรดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในขณะนี้นั้นคงหนีไปไม่พ้น Meta Trader (MT4) ส่วน Meta Trader 5 (MT5) นั้นเป็นแพรตฟอร์มที่ได้รับการพัฒนามาจาก MT4

MT4 เป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในอดีตและยังคงใช้งานอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน มันมีส่วนเน้นไปที่การซื้อขายแบบเทคนิค (Technical Analysis) โดยมีเครื่องมือและอินดิเคเตอร์ที่หลากหลายที่ช่วยให้คุณวิเคราะห์และดูแนวโน้มของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีระบบการซื้อขายอัตโนมัติ (Expert Advisors) ที่ช่วยให้คุณสามารถเขียนและใช้ระบบการซื้อขายอัตโนมัติได้ตามต้องการ  แพลตฟอร์ม MT4 มีความโดดเด่นดังต่อไปนี้

  • เป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่ใช้งานง่าย
  • มีข้อมูลแนะนำการใช้งานพร้อมสื่อการสอนจำนวนมากจึงเหมาะกับมือใหม่สำหรับการเรียนรู้
  • อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย
  • เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถใช้งานได้บนหลากหลายอุปกรณ์ เช่น เครื่องเดสก์ท็อป  มือถือและเวอร์ชันบนเว็บ
  • มีผู้ที่พัฒนาโปรแกรมเทรดอัตโนมัติพร้อมใช้งานจำนวนมาก ทั้งแจกฟรีและเพื่อจำหน่าย

ใครควรเลือกแพรตฟอร์ม MT4

MT4 เป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายที่ถูกสร้างขึ้นมาก่อน MT5  หากเทรดเดอร์เลือกใช้แพลตฟอร์ม MT4 จะสามารถทำการซื้อขายตราสารได้ดังนี้

  1. คู่สกุลเงิน (Forex)
  2. สกุลเงินดิจิทัล
  3. ดัชนีหุ้น
  4. ทองคำและน้ำมัน

แต่เทรดเดอร์จะไม่สามารถทำการซื้อขายหุ้นได้

MT5 เป็นรุ่นที่พัฒนามาจาก MT4 โดยมีความสามารถและฟังก์ชั่นเพิ่มเติม ซึ่งสำคัญที่สุดคือความสามารถในการซื้อขายแบบหลายทรัพย์สิน (Multi-Asset) ซึ่งไม่เพียงแค่คู่สกุลเงินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น หุ้น เงินทอง สินค้า ฯลฯ นอกจากนี้ MT5 ยังมีฟังก์ชั่นสำคัญอื่น ๆ เช่น การวิเคราะห์ทางเทคนิคที่เพิ่มเติม รายงานการวิเคราะห์และข่าวสารในตลาด เครื่องมือการซื้อขายที่กว้างขึ้น และภาพรวมตลาดที่ชัดเจนมากขึ้น

  • เป็นแพลตฟอร์มที่น่าสนใจและได้รับความสนใจจากนักเทรดมากขึ้นเรื่อยๆ
  • เป็นระบบที่เรียบง่ายสำหรับการทดสอบกลยุทธ์การเทรด
  • อินเทอร์เฟซเรียบง่ายและใช้งานง่าย
  • เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถใช้งานได้บนหลากหลายอุปกรณ์ เช่น เครื่องเดสก์ท็อป  มือถือและเวอร์ชันบนเว็บ

ใครควรเลือกแพลตฟอร์ม MT5

เทรดเดอร์ที่เลือกแพลตฟอร์ม MT5 จะสามารถซื้อขายตราสารได้หลายแบบ

  1. คู่สกุลเงิน (Forex)
  2. สกุลเงินดิจิทัล
  3. ดัชนีหุ้น
  4. ทองคำและน้ำมัน
  5. หุ้น

สิ่งที่แตกต่างกันระหว่าง MT4 กับ MT5 คืออะไร

สิ่งที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนคือ MT4 ไม่มีการให้บริการซื้อขายหุ้น

MT4 (MetaTrader 4) และ MT5 (MetaTrader 5) เป็นแพลตฟอร์มการเทรดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดการเงิน แต่มีความแตกต่างกันหลายประการ ทั้งในเรื่องของฟีเจอร์ ความสามารถ และโครงสร้างของแพลตฟอร์ม ดังนี้

1. สถาปัตยกรรมและโครงสร้าง

  • MT4  ใช้โครงสร้างแบบ 4 แท่งเทียน (4-digit pricing) สำหรับบางคู่เงิน แต่บางโบรกเกอร์อาจเสนอราคาในรูปแบบ 5 แท่งเทียน (5-digit pricing) โดยการอัพเดตจุดทศนิยมที่เล็กที่สุด
  • MT5  ใช้โครงสร้างแบบ 5 แท่งเทียน (5-digit pricing) เป็นมาตรฐาน และมีการประมวลผลคำสั่งที่รวดเร็วกว่า

2. ประเภทของคำสั่งซื้อขาย

  • MT4  รองรับ 4 ประเภทของคำสั่งซื้อขายรอดำเนินการ (Pending Orders) ได้แก่ Buy Limit, Buy Stop, Sell Limit, Sell Stop
  • MT5  รองรับ 6 ประเภทของคำสั่งซื้อขายรอดำเนินการ เพิ่มเติมอีก 2 ประเภทคือ Buy Stop Limit และ Sell Stop Limit ซึ่งช่วยให้การจัดการคำสั่งซื้อขายมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

3. ประเภทของตลาดที่รองรับ

  • MT4  ออกแบบมาเพื่อการเทรดฟอเร็กซ์เป็นหลัก และรองรับการเทรด CFD (Contract for Difference) บางประเภท
  • MT5  รองรับการเทรดหลายสินทรัพย์ เช่น ฟอเร็กซ์, หุ้น, ฟิวเจอร์ส, และอื่น ๆ ทำให้เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสมสำหรับการเทรดที่หลากหลาย

4. อินดิเคเตอร์และเครื่องมือวิเคราะห์

  • MT4  มาพร้อมกับอินดิเคเตอร์ 30 ตัวในตัว และมีเครื่องมือวิเคราะห์มาตรฐาน เช่น Trendlines, Fibonacci Retracement
  • MT5  มาพร้อมกับอินดิเคเตอร์ 38 ตัว มีเครื่องมือวิเคราะห์เพิ่มเติม เช่น 21 Timeframes (กรอบเวลา) และเครื่องมือปฏิทินเศรษฐกิจในตัว

5. การทดสอบย้อนหลัง (Backtesting)

  • MT4  การทดสอบย้อนหลังแบบ Single-thread (ประมวลผลทีละคำสั่ง)
  • MT5  การทดสอบย้อนหลังแบบ Multi-thread (ประมวลผลหลายคำสั่งพร้อมกัน) และมีโหมดทดสอบหลายสกุลเงินพร้อมกัน

6. ระบบการจัดการบัญชี

  • MT4  ใช้ระบบการจัดการคำสั่งแบบ FIFO (First In, First Out) ซึ่งในบางตลาดอาจมีข้อจำกัด
  • MT5  รองรับทั้ง FIFO และ Non-FIFO ทำให้มีความยืดหยุ่นในการจัดการคำสั่งซื้อขาย

7. ปฏิทินเศรษฐกิจ

  • MT4  ไม่มีปฏิทินเศรษฐกิจในตัว ต้องใช้ปฏิทินจากแหล่งอื่น
  • MT5  มีปฏิทินเศรษฐกิจในตัว ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์ติดตามข่าวสารสำคัญได้ทันที

8. การสนับสนุนระบบการซื้อขายอัตโนมัติ (Expert Advisors)

  • MT4  รองรับ Expert Advisors (EAs) และสคริปต์ที่เขียนด้วยภาษา MQL4
  • MT5  รองรับ Expert Advisors (EAs) และสคริปต์ที่เขียนด้วยภาษา MQL5 ซึ่งมีฟังก์ชันการทำงานที่ซับซ้อนและหลากหลายกว่า MQL4

9. การจัดการคำสั่งซื้อ (Order Management)

  • MT4  การจัดการคำสั่งซื้อเป็นแบบ Position-based
  • MT5  การจัดการคำสั่งซื้อเป็นแบบ Netting (คำนวณสุทธิ) และ Hedging (การทำเฮดจิ้ง)

10. ความเข้ากันได้

  • MT4  มีการสนับสนุนจากโบรกเกอร์มากมาย และมีซอฟต์แวร์เสริมที่รองรับมากมาย
  • MT5  แม้จะเป็นแพลตฟอร์มที่ใหม่กว่า แต่บางโบรกเกอร์อาจยังไม่ได้เปลี่ยนไปใช้ MT5 หรือไม่มีการสนับสนุนฟีเจอร์ทั้งหมด

หากคุณต้องการเทรดในตลาดฟอเร็กซ์และ CFD ทั่วไป MT4 จะเป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากมีความเสถียรและการสนับสนุนที่กว้างขวาง แต่หากคุณต้องการเทรดสินทรัพย์หลากหลายและต้องการฟีเจอร์การวิเคราะห์ขั้นสูง MT5 จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

Share This Story, Choose Your Platform!

โบนัสเทรดฟรี ไม่ต้องฝากเงิน

จะดีกว่าไหมหากได้เงินทุนมาเทรดฟรี ๆ กำไรก็สามารถถอนออกมาได้

บทความที่เกี่ยวข้อง