Scalping อาจดูเป็นคำที่น่ากลัวสำหรับคนทั่วไป ในทางกลับกัน เทรดเดอร์จะค้นพบโอกาสมากมาย ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความหมายของมัน ในการซื้อขาย คุณไม่ต้องทำอะไรกับ หนังศีรษะของมนุษย์ทั้งนั้น แต่ให้คุณ “ซอย” pips เป็นส่วนๆ เพื่อทำกำไร จากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของราคาเพียงเล็กน้อยแทน ในความเป็นจริงแล้ว การ scalping หมายถึง รูปแบบการซื้อขายระยะสั้น ซึ่งช่วยให้ประสบความสำเร็จในตลาด จากการเปลี่ยนแปลงของราคาเพียงเล็กน้อย ให้ได้มากที่สุดภายในหนึ่งวัน ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าการ scalping เป็นแนวทางการซื้อขายที่ค่อนข้างมีความเสี่ยง ซึ่งจะต้องจับตาดูกราฟตลอดทั้งวัน ดังนั้น scalper จำเป็นที่จะต้องมีประสาทที่แข็งแกร่ง ดั่งเหล็กกล้า และติดตามตลาดอย่างระมัดระวัง สิ่งสำคัญคือจะต้องทราบเคล็ดลับ ในการจัดการกับความเสี่ยง และวางระดับการเข้าและ stop loss อย่างถูกวิธี มือใหม่ที่มั่นใจในตัวเองในการ scalping อาจกลายเป็นผู้สูญเสียได้ หากเขาไม่มีอัลกอริทึมในการเข้าสู่ตลาด วันนี้เราจะพาคุณฝ่าฟันไปด้วยกันในครั้งนี้ และแบ่งปันกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ สำหรับการ scalping กับคุณ
แต่ก่อนอื่นมาดูกันว่ากลยุทธ์การ Scalping เหล่านี้มีประโยชน์สำหรับคุณหรือไม่
คุณเป็น Scalper ถ้าคุณ:
- เทรดในกรอบเวลาขนาดเล็ก (M1, M5, M15)
- ชอบความเสี่ยง และพร้อมที่จะทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการเทรด
- เทรดในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวน / วุ่นวาย
- ชอบที่จะมีขนาดของตำแหน่งที่ใหญ่ เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนมากขึ้น จากการซื้อขายระยะสั้น
หากคุณตอบว่า “ใช่” มากกว่าสองข้อ แสดงว่าคุณเป็น scalper ตัวจริง! สำหรับผู้ที่ตอบว่า “ใช่” เพียงข้อเดียว ในตอนนี้คุณอาจกำลังพิจารณาถึงวิธีนี้อยู่ อย่างไรก็ตามกลยุทธ์ที่เราจะอธิบายด้านล่างนี้ เป็นเรื่องง่ายๆ และเข้าใจได้ไม่ยาก เราเชื่อว่าหนึ่งในพวกคุณ อาจจะนำไปทดลองใช้และดูว่ามันได้ผลเพียงใด
กลยุทธ์ที่ 1 – กลยุทธ์ Scalping 5 นาที
องค์ประกอบสำคัญ:
- กรอบเวลา: H1, M5
- คู่สกุลเงิน: คู่สกุลเงินที่มีสภาพคล่องที่มีสเปรดต่ำ (EUR/USD, GBP/USD, USD/CHF, USD/JPY)
- ตัวชี้วัด: EMA-8, EMA-21 และ EMA-13
อัลกอริทึมของสถานการณ์ “Buy”
- ก่อนอื่นเราต้องทำการยืนยันว่า แนวโน้มนั้นเป็นแนวโน้มที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ในการที่จะยืนยันแนวโน้ม เราจะเปิดกราฟ H1 และใส่ EMA-8 และ EMA-21 ลงไป ในการทำเช่นนั้น ให้คุณเปิด Metatrader คลิกที่ “Insert” เลือก “Indicators” จากนั้นเลือก “Trend” แล้วเลือก “Moving Average”
- ในสถานการณ์ “buy” เราจำเป็นที่จะต้องเห็นแนวโน้มขาขึ้น เพื่อยืนยันแนวโน้มนี้ ระยะ EMA-8 ควรอยู่เหนือระยะ EMA-21 Moving averages ไม่ควรมาตัดกัน
- ทีนี้เราไปที่ M5 กัน แล้วใส่ SMA-13 ใน Moving average นี้จะต้องเห็น ช่องว่างระหว่าง EMA-8 และ EMA-21 ยิ่งช่องว่างมีความกว้างมากเท่าไร แนวโน้มก็มีความแข็งแกร่งมากเท่านั้น
- เรารอให้ขอบล่างของแท่งเทียนมาแตะที่ EMA-8 นี่คือแท่งเทียน trigger ของเรา
- ท่ามกลางแท่งเทียนต่างๆ เราต้องหาแท่งเทียนที่สูงที่สุด ที่อยู่ ก่อน แท่งเทียน trigger
- ให้วางคำสั่ง buy ที่ระดับสูงสุดของแท่งเทียนนี้ วางคำสั่ง Stop loss ที่ระดับเดียวกัน กับระดับต่ำสุดของแท่งเทียน trigger
- เราวางคำสั่ง take profit แรก ในระยะเดียวกันกับระยะที่อยู่ระหว่าง ตำแหน่งที่เข้าซื้อและ stop loss หากแนวโน้มยังคงแข็งแกร่งใน H1 และเรามั่นใจมากพอ เราสามารถเพิ่มผลตอบแทนของเราเป็นสองเท่า และปิดตำแหน่งที่ระยะห่าง ระหว่างตำแหน่งที่เข้าซื้อและ stop loss ที่มากกว่าเป็นสองเท่าได้
มาดูตัวอย่างกัน เราจะดูกันที่กราฟของ EUR/USD ในวันที่ 22 กรกฎาคม บน H1 เราจะเห็นว่าราคากำลังเคลื่อนไหว โดยมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น ระยะ EMA-8 กำลังเคลื่อนที่อยู่เหนือระยะ EMA-21
เราเปลี่ยนมาที่ M5 และรอให้แท่งเทียนทดสอบ EMA-8 โดยเงาเทียนด้านล่าง แท่งเทียน trigger ปรากฏขึ้นที่เวลา 12:55 น. ของวันที่ 22 กรกฎาคม เรานับแท่งเทียน 5 แท่ง ย้อนกลับไป เริ่มจากแท่งเทียน trigger เป็นแท่งแรก และเลือกแท่งเทียนที่มีความสูงที่สูงที่สุด เราเปิดตำแหน่ง buy ที่ 1.1545 เราวางคำสั่ง “buy stop” ไว้ที่จุดสูงสุด ของแท่งเทียนที่สูงที่สุด คำสั่ง stop loss จะวางอยู่ที่ระดับต่ำสุด ของแท่งเทียน trigger ที่ 1.1537 ในขณะที่ระดับ take profit อยู่ที่:
1.1545-1.1537=0.0008
TP1 = 1.1545+0.0008=1.1553
TP2 = 1.1553+0.0008=1.1561
อัลกอริทึมของสถานการณ์ “Sell”
ในทางตรงกันข้าม เรามาดูขั้นตอนในการเปิดสถานะ short กัน
- ใน H1 นั้นระยะ EMA-8 ควรอยู่ต่ำกว่าระยะ EMA-21 เป็นการยืนยันว่าเป็นแนวโน้มขาลง อย่าลืมว่าในสถานการณ์ “buy” นั้น moving averages ไม่ควรมาตัดกัน
- เราหันมาสนใจกราฟที่ M5 และวาง SMA-13 ไว้ที่นั่น ยิ่งช่องว่างมีความกว้างมากเท่าไร แนวโน้มก็มีความแข็งแกร่งมากเท่านั้น
- เรารอให้ขอบบนของแท่งเทียนมาแตะที่ EMA-8 นี่คือแท่งเทียน trigger ของเรา
- ท่ามกลางแท่งเทียนต่างๆ เราต้องหาแท่งเทียนที่ต่ำที่สุด ที่อยู่ ก่อน แท่งเทียน trigger
- ให้วางคำสั่ง sell ที่ระดับต่ำสุดของแท่งเทียนนี้ วางคำสั่ง Stop loss ที่ระดับเดียวกัน กับระดับสูงสุดของแท่งเทียน trigger
- วางคำสั่ง take profit แรกที่ระยะที่เท่ากับ ระยะ stop loss ของเรา วางคำสั่ง take profit อันที่สอง ไว้ที่จุดที่มีระยะห่างระหว่างตำแหน่งเข้าและ stop loss ที่มากกว่าเป็นสองเท่าได้
ในกราฟ H1 ของ EUR/USD เราจะสังเกตเห็นว่าทั้งคู่เคลื่อนไหว โดยมีแนวโน้มเป็นขาลง ระยะ EMA-8 กำลังเคลื่อนที่อยู่ต่ำกว่าระยะ EMA-21
เราเปิดกราฟ M5 และรอแท่งเทียน trigger มันปรากฏขึ้นที่เวลา 16:25 น. ของวันที่ 15 สิงหาคม เรานับแท่งเทียน 5 แท่ง ย้อนกลับไป เริ่มจากแท่งเทียน trigger เป็นแท่งแรก และเลือกแท่งเทียนที่มีความต่ำที่ต่ำที่สุด นี่คือคำสั่ง sell ของเราซึ่งอยู่ที่ 1.1134 วางคำสั่ง Stop loss ที่ระดับเดียวกัน กับระดับสูงสุดของแท่งเทียน trigger ที่ระดับ 1.1144 ระดับการ take profit คำนวณได้ดังนี้:
1.1144-1.1134=0.0010
TP1 = 1.1134-0.0010=1.1124
TP2 = 1.1124-0.0010=1.1114
กลยุทธ์ที่ 2 – Gold-scalping
กลยุทธ์ที่สองนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบ การซื้อขายทองคำ และต้องการเรียนรู้วิธีการ scalp โลหะมีค่า พึงระลึกไว้ว่าคุณต้องใส่ใจกับกราฟอย่างเต็มที่
องค์ประกอบสำคัญ:
- กรอบเวลา: M1
- สินทรัพย์: ทองคำ, เงิน
- ตัวชี้วัด: Williams’ Percent Range: Fast (9) และ Slow (54) โดยใช้ระยะ -30 และ -70
อัลกอริทึมของสถานการณ์ “Buy”
คุณจำเป็นต้องวางคำสั่ง buy เมื่อ oscillators ของทั้ง slow และ fast ทะลุเหนือ -30 ปิดตำแหน่งของคุณเมื่อ fast oscillator (9) ออกจากโซน Stop Loss วางอยู่ใต้แนวรับหลาย pips ในบริเวณที่ใกล้เคียง
อัลกอริทึมของสถานการณ์ “Sell”
เมื่อคุณพิจารณาที่จะเปิดสถานะ short คุณต้องวางคำสั่ง sell เมื่อ oscillators ของทั้ง slow และ fast ทะลุต่ำกว่า -70 และปิดเมื่อออกจากโซนอย่างรวดเร็ว Stop Loss วางอยู่เหนือแนวต้านหลาย pips ในบริเวณที่ใกล้เคียง
ด้านล่างนี้คุณสามารถดูตัวอย่างของการเปิดสถานะ long เราเปิดตำแหน่งเมื่อ oscillators ของทั้ง slow และ fast อยู่เหนือระดับ -30 ที่ 1 946.12 และปิดที่ 1 948.67 เมื่อ fast oscillators ข้ามระดับ -30 ไปยังขาลง ที่ระดับ 1 945 เป็นจุดสำหรับ stop loss ของเรา
ตอนนี้คุณก็ได้รู้แล้วว่าคุณสามารถ ใช้กลยุทธ์ใดในการ scalping ได้ เราขอแนะนำให้คุณลองใช้ดู! ในขณะเดียวกันก็อย่าลืมเรื่องการบริหารความเสี่ยง และอย่าโลภ คำแนะนำง่ายๆ นี้อาจช่วยให้คุณให้รอดพ้น จากการเทรดที่ไม่ประสบความสำเร็จ
[button color=”green” size=”large” type=”round” target=”_blank” link=”https://fbs.com/cabinet/registration/trader/?ppu=4553&account=cent&lang=en”]เปิดบัญชีกับ FBS[/button]
บทความนี้นำมาจากโบรกเกอร์ FBS
Share This Story, Choose Your Platform!
Fibonacci Retracement มาจากอัตราส่วนระหว่างตัวเลขในลำดั […]
เราทุกคนต่างรู้ดีว่าคุณชอบ scalping มากแค่ไหน แนวทางการ […]