การเป็นนักเทรด Forex ต้องผ่านขั้นตอนต่อไปนี้:

  1. เรียนรู้พื้นฐานการเทรด Forex: ศึกษาและเข้าใจเกี่ยวกับพื้นฐานการเทรด Forex รวมถึงตลาด Forex และการวิเคราะห์กราฟ การศึกษาพื้นฐานการเทรด Forex จะเป็นเรื่องสำคัญในการเรียนรู้วิธีการซื้อขายสกุลเงินในตลาด Forex โดยมีบทเรียนพื้นฐานดังนี้:
  • ตลาด Forex: ศึกษาและเข้าใจเกี่ยวกับตลาด Forex รวมถึงการเคลื่อนไหวของสกุลเงินแต่ละคู่ในตลาด
  • คู่สกุลเงิน: เรียนรู้เกี่ยวกับคู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายในตลาด Forex รวมถึงการเลือกคู่สกุลเงินที่เหมาะสมสำหรับการซื้อขาย
  • การวิเคราะห์กราฟ: ศึกษาเกี่ยวกับการวิเคราะห์กราฟและอินดิเคเตอร์ต่างๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจเพื่อเข้าซื้อขาย
  • การจัดการความเสี่ยง: เรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการความเสี่ยงในการเทรด Forex และการสร้างแผนการเทรดที่เหมาะสม
  • ข่าวเศรษฐกิจ: ติดตามข่าวเศรษฐกิจเพื่อเข้าใจสาเหตุและผลกระทบต่อตลาด Forex และตัดสินใจเพื่อเปิดหรือปิดการซื้อขายสกุล

 

  1. เรียนรู้กลยุทธ์การเทรด: ศึกษาและเลือกใช้กลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสมกับตนเอง โดยใช้กลยุทธ์ที่ถูกพัฒนาและทดสอบเป็นเวลานานเพื่อเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการเทรด

การเทรด Forex จะต้องมีกลยุทธ์ในการเข้าซื้อขายเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไร โดยมีกลยุทธ์หลายแบบที่สามารถนำมาใช้ได้ เช่น กลยุทธ์ติดตามเทรนด์ (Trend Following), กลยุทธ์เทรดสั้นๆ (Scalping), กลยุทธ์เทรดโดยใช้กราฟิกและแนวรับ-ต้าน (Support and Resistance), และอื่นๆ

  • กลยุทธ์ติดตามเทรนด์ (Trend Following): คือกลยุทธ์การเทรดที่จะเข้าซื้อขายตามเทรนด์ที่เกิดขึ้นบนกราฟ โดยส่วนใหญ่จะใช้ Moving Average เป็นตัวบอกแนวโน้มของตลาด โดยซื้อเมื่อราคาขึ้นและขายเมื่อราคาลง
  • กลยุทธ์เทรดสั้นๆ (Scalping): คือกลยุทธ์การเทรดที่มุ่งเน้นในการเข้าซื้อขายในระยะสั้นๆ เพื่อทำกำไรจากการซื้อขายสกุลเงินเมื่อมีความผันผวนของราคา โดยจะทำการเปิด-ปิดรายการในระยะเวลาสั้นๆ เช่น 15 นาที, 30 นาที, 1 ชั่วโมง
  • กลยุทธ์เทรดโดยใช้กราฟิกและแนวรับ-ต้าน (Support and Resistance): คือกลยุทธ์การเทรดที่ใช้การวิเคราะห์กราฟและการหาแนวรับ-ต้านของราคาเพื่อช่วยตัดสินใจเข้าซื้อขาย แนวรับ-ต้าน (Support and Resistance) คือระดับราคาที่มีความน่าจะเป็นที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มของราคา แนวรับ (Support) คือระดับราคาที่ราคามีความน่าจะเป็นที่จะเริ่มขึ้น และแนวต้าน (Resistance) คือระดับราคาที่ราคามีความน่าจะเป็นที่จะเริ่มลง

ในการใช้กลยุทธ์นี้ นักเทรดจะต้องวิเคราะห์กราฟเพื่อหาแนวรับ-ต้าน โดยส่วนใหญ่จะใช้เครื่องมือวิเคราะห์กราฟเช่น Trend lines, Horizontal lines หรือ Fibonacci retracements เป็นต้น

เมื่อหาแนวรับ-ต้านเสร็จสิ้น นักเทรดจะนำข้อมูลที่ได้มาใช้เพื่อดำเนินการเทรด โดยทั่วไปแล้ว นักเทรดจะเข้าซื้อสินทรัพย์เมื่อราคาเข้าใกล้แนวรับ (Support) และขายสินทรัพย์เมื่อราคาเข้าใกล้แนวต้าน (Resistance) โดยมีการตั้ง Stop loss เพื่อจำกัดความเสี่ยงในการเทรด

 

  1. เปิดบัญชีเทรด: เปิดบัญชีเทรด Forex กับโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือและมีความเป็นมืออาชีพ โดยใช้เงินที่เหมาะสมกับความสามารถในการเทรด

การเปิดบัญชีเทรด Forex นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ เนื่องจากโบรกเกอร์ที่เราเลือกจะมีผลต่อความสำเร็จในการเทรดของเรา ดังนั้น ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีความเป็นมืออาชีพและน่าเชื่อถือเพื่อป้องกันการขาดทุนที่ไม่จำเป็น

นอกจากนี้ ยังควรใช้เงินที่เหมาะสมกับความสามารถในการเทรด โดยควรจะตั้งเป้าหมายการกำไรและการขาดทุนอย่างชัดเจน และจำกัดการเทรดในแต่ละครั้งเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดเงินในบัญชี เพื่อป้องกันการขาดทุนที่มากจนเกินไป

การเปิดบัญชีเทรด Forex สามารถทำได้โดยติดต่อกับโบรกเกอร์ที่เราเลือก ซึ่งมีขั้นตอนการเปิดบัญชีที่แตกต่างกันไปตามแต่ละโบรกเกอร์ แต่โดยทั่วไปแล้ว เราจะต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว ต้องสมัครสมาชิกกับโบรกเกอร์ เพื่อให้ได้รับการยืนยันตัวตน และทำการฝากเงินเพื่อเริ่มเทรดได้

นอกจากนี้ ยังควรอ่านเงื่อนไขการเทรดของโบรกเกอร์อย่างละเอียด เพื่อให้เข้าใจถึงข้อจำกัดและเงื่อนไขในการเทรด รวมถึงค่าธรรมเนียมและค่าบริการอื่นๆ ที่อาจจะมีในการเทรดด้วย

 

  1. ฝึกฝนการเทรด: ฝึกฝนการเทรดโดยใช้บัญชี Demo ก่อนที่จะเริ่มเทรดด้วยเงินจริง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเทรด

การฝึกฝนการเทรดโดยใช้บัญชี Demo จะช่วยให้เราสามารถเรียนรู้และฝึกฝนการเทรด Forex ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่ไม่ต้องเสี่ยงที่จะต้องเสียด้วยเงินจริง ซึ่งเป็นวิธีการที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือ

ในการเริ่มฝึกฝนการเทรด จะต้องเลือกโบรกเกอร์ที่มีบัญชี Demo ให้เราสามารถฝึกฝนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จากนั้นเราจะได้รับบัญชี Demo ที่จะใช้ในการฝึกฝนการเทรด Forex โดยมีเงินสำหรับเทรดในบัญชีนี้เป็นเงินเสมือน ซึ่งไม่มีผลต่อการขาดทุนจริงๆ

ในการเทรดบนบัญชี Demo เราสามารถฝึกฝนการวางแผนการเทรด รวมถึงการวิเคราะห์ตลาด ด้วยการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ที่ให้ไว้ในแพลตฟอร์มของโบรกเกอร์ และลองเทรดด้วยกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อดูผลลัพธ์ว่ามีผลลัพธ์เป็นอย่างไร

การฝึกฝนการเทรดโดยใช้บัญชี Demo จะช่วยให้เรามีความมั่นใจในการเทรด เพราะเราได้มีโอกาสเรียนรู้และปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดได้โดยไม่มีการขาดทุนจริงๆ ดังนั้น การใช้บัญชี Demo ในการฝึกฝนการเทรด Forex จึงเป็นวิธีที่ดีในการเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเริ่มเทรดด้วยเงินจริง

 

  1. จัดการความเสี่ยงในการเทรด: ใช้การจัดการความเสี่ยงในการเทรดอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการสูญเสียเงินจากการเทรดเกินกว่าที่เราจะรับได้

การจัดการความเสี่ยงในการเทรด Forex เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะการเทรด Forex เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง ดังนั้นการจัดการความเสี่ยงในการเทรดจึงช่วยลดความเสี่ยงให้เราได้มากที่สุด แนวทางต่อไปนี้คือหลักการจัดการความเสี่ยงในการเทรด Forex ที่เหมาะสม:

  • ตั้งเป้าหมายกำไรและขาดทุน: กำหนดเป้าหมายกำไรและขาดทุนเพื่อช่วยควบคุมความเสี่ยงในการเทรด การกำหนดเป้าหมายกำไรและขาดทุนจะช่วยให้เราไม่เกินกว่าที่เราสามารถรับได้
  • ใช้ Stop Loss และ Take Profit: การใช้ Stop Loss และ Take Profit เป็นการลดความเสี่ยงในการเทรด การตั้ง Stop Loss ช่วยลดความเสี่ยงในการสูญเสียเงินและการตั้ง Take Profit ช่วยให้เราเข้าได้กับตลาดที่ถูกต้อง
  • ตรวจสอบความสามารถในการเทรด: ต้องพิจารณาความสามารถในการเทรดของตนเอง ไม่ควรเทรดหลังจากที่รู้สึกเครียดหรือมีปัญหาส่วนตัว เนื่องจากอาจทำให้การตัดสินใจผิดพลาด
  • รู้เวลาเปิด-ปิดตลาด: รู้เวลาเปิด-ปิดตลาด เพราะการเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดเปิด-ปิดอาจมีความเสี่ยงสูงกว่าช่วงเวลาอื่นๆ
  • ติดตามข่าวสารที่สำคัญ: การติดตามข่าวสารที่สำคัญเป็นสิ่งสำคัญในการเทรด Forex เพราะส่วนใหญ่ข่าวสารต่างๆ สามารถส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของตลาดได้โดยตรง ดังนั้นการติดตามข่าวสารที่สำคัญจะช่วยให้คุณเข้าใจถึงสาเหตุของการเคลื่อนไหวของตลาดและวางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เพื่อติดตามข่าวสารที่สำคัญ คุณสามารถทำได้โดยการ:

  • ติดตามข่าวสารผ่านหน้าเว็บไซต์ของโบรกเกอร์หรือหน้าต่างเทรดที่คุณใช้
  • ติดตามข่าวสารผ่านโทรทัศน์หรือวิทยุที่มีรายการข่าวเศรษฐกิจ
  • ติดตามข่าวสารผ่านแหล่งข่าวออนไลน์ ได้แก่ Bloomberg, Reuters, Financial Times หรือ CNBC
  • ติดตามผู้เชี่ยวชาญในวงการเทรด Forex บนโซเชียลมีเดีย เช่น Twitter, Facebook, YouTube หรือ LinkedIn ซึ่งพวกเขามักจะแบ่งปันข่าวสารและวิเคราะห์ตลาดที่มีคุณค่าให้แก่นักเทรด Forex อย่างเป็นประจำ

 

 

Share This Story, Choose Your Platform!

โบนัสเทรดฟรี ไม่ต้องฝากเงิน

จะดีกว่าไหมหากได้เงินทุนมาเทรดฟรี ๆ กำไรก็สามารถถอนออกมาได้

บทความที่เกี่ยวข้อง